2015 2018
ทนง ตันชวลิต ทนง ตันชวลิต
367 subscribers
26 views
0

 Published On Jun 12, 2024

ชีวิตที่สอง
บรรพที่ 409 ศูนย์พัฒนาน้ำบาดาล 2 สระบุรี
ตอนที่สอง เพื่อความเหมาะสม(ที่แท้จริง)

ระหว่างเดินทางจากศูนย์โคราชมาศูนย์สระบุรี มีคนโทรมาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสระบุรี เขาคงอึดอัดเต็มที่ เรื่องอะไรนั้น ไม่บอก
โครงสร้างของสระบุรีก็เหมือนกับโคราช แบ่งออกเป็นสามฝ่าย
ฝ่ายบริหาร ฝ่ายวิชาการ และฝ่ายปฏิบัติการ
ฝ่ายบริหารมี บัวริม จารุเพ็ง เป็นหัวหน้า ควบหัวหน้าธุระการและการเงิน ส่วนหัวหน้างานพัสดุคือ สุรพล จารุเพ็ง(ผมไม่แน่ใจว่าตอนนั้นเป็นบัวริมหรือคุณแจ้วเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร แต่ที่แน่ ๆคือ ตอนผมเป็นหัวหน้างานเจาะที่สระบุรี คุณแจ๋วเป็นหัวหน้างานธุรการ บัวริมเป็นการเงิน)
ฝ่ายวิชาการมี สิทธิศักดิ์ มั่นอยู่(อุ้ย) เป็นหัวหน้าฝ่าย เป็นนักธรณีจาก รพช.
ฝ่ายปฏิบัติการมี สำเริง สโมทัย เป็นหัวหน้าฝ่าย เขาอยู่ฝ่ายสระบุรีตั้งแต่เข้ามา เป็นหนึ่งใน 4 คน จากกลุ่มที่ผมเรียกว่า รุ่นกลาง
ปี 2522 ผมโอนจาก รพช.ลำปางมาอยู่ฝ่ายสระบุรี พวกเขาเข้ามาหลังจากนั้น ผมจำไม่ได้ว่ากี่ปี เป็นระดับ Technician ทั้งหมด
สำริง สโมทัย
การุณ สาครวงศ์
ธิติ คชสาร
หัสดี จายางกูล
สองคนแรกได้ดิบได้ดีในแวดวงราชการ อยู่ถึงเกษียณ
ธิติ คชสาร ออกไปตั้งบริษัทเกี่ยวกับน้ำบาดาล นิสัยอย่างเขาเหมาะกับการเป็นพ่อค้ามากว่าข้าราชการ บริษัทดำเนินการได้ด้วยดีจนถึงปัจจุบัน
คนสุดท้ายผมไม่ทราบข่าวคราวเขา คงไปได้ไม่ดีเท่าเพื่อนของเขาสามคน
ถ้าสังเกตให้ดี จะมีคนนามสกุลซ้ำกัน 2 คน
การเงินเป็นภรรยาพัสดุเป็นสามี
ตามหลักการปกครองถือว่า ไม่สมควรที่จะให้ทำงานด้วยกัน คงเคยได้ยินคำว่า สภาผัวเมียกันนะครับ
ผมออกคำสั่งให้ กมล ละครพล มาเป็นพัสดุแทน สุรพล จารุเพ็ง ส่วนสุรพล (ปัจจุบันน่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น กสิเดช ) ให้ไปช่วยงานที่ฝ่ายปฏิบัติการ(นี่เขาถึงเรียกว่า การย้ายเพื่อความเหมาะสมที่แท้จริง ไม่มีอคติใด ๆ คิดถึงประโยชน์ทางราชการ เป็นสำคัญ)
ที่จริง ผมย้ายมาสระบุรี ก็ไม่ได้เดือนร้อนอะไร ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงสำหรับผม ผมยังคงเป็นวิศวกร 7 ศูนย์สระบุรีเป็นหนึ่งในศูนย์ใหญ่ 6 ศูนย์ ศักดิ์ศรีไม่แตกต่างกัน ซ้ำสระบุรียังเป็นบ้านเก่าผม ผมทำงานอยู่ที่นี่หลายปี
ผมเป็นข้าราชการที่ดีเสมอมา ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้านายเสมอ ย้ายก็คือย้าย ตอนนั้นเก็บของแล้ว
ที่ผมโวยวาย ดิ้นรน อาจเป็นเพราะหน้าห้องรัฐมนตรีโทรมา ทำให้เกิดความหวังที่จะย้ายกลับ สุดท้ายก็ไม่ได้กลับ ไม่เป็นไรแต่ถึงยังไงมันก็คาใจ
อยากจะถามอธิบดีว่า
”กูผิดอะไร”
มันคงคาใจผมมาตลอด จนมีการประชุมที่เชียงใหม่ ประชุมเสร็จ ผมก็ไปกินเหล้ากับลูกน้องเก่าทางเหนือตามสันดานไม่เข้าใกล้นาย
สุรพล ธรรมสาร เจ้าเก่า โทรมา บอกว่าให้ไปหาอธิบดีที่ร้านอาหาร(จำไม่ได้ว่ามันชื่ออะไร)
ให้ลูกน้องไปส่ง คนนั่งอยู่น่าจะสิบยี่สิบคน ขุนพลพร้อมหน้า
ผมเมาแล้วดันเสือกแทรกเหล่าขุนพลทั้งหลายเข้าไปนั่งข้างอธิบดี ตลอดระยะเวลาที่กินกัน ผมมีคำถามเดียว
ย้ำ ๆซ้ำ ๆ ว่า ทำไมถึงย้ายผม ไม่มีคำตอบจากสวรรค์
กินเหล้ามาก เข้าห้องน้ำ กลับออกมามีแต่ความว่างเปล่า เขาเก็บโต๊ะไปหมดแล้ว
เดินออกมาปากซอย โบกรถกลับโรงแรม ดีที่จำชื่อโรงแรมได้
ถ้าเสือกลืม คงนอนที่ร้านนั้นหรือข้างถนน

นงชลิต
12/6/67/13.29
เอารูปตอนไปทิเบตมาให้ดู เป็นการเดินทางที่ยาวนานที่สุดของผม 47 วัน
ได้ทักษิณาวัตร รอบเขาไกรลาส ชาวทิเบตเรียก Kora
บำเพ็ญภาวนา
1 รอบ
3 วัน
50 กว่า กิโลเมตร
ผ่าน โดมาลาพาส
จุดสูงที่สุดของเส้นทาง 5630 เมตร
รู้ไหม... เหนื่อยแทบขาดใจ
แต่ก็ภูมิใจที่ได้ทำ
ได้ไปเอาน้ำศักดิ์สิทธิ์จากสระอโนดาตมาทำมงคล 3 สายคาดตามความเชื่อส่วนตัว
ไกรลาส ภูผาแห่ง ศิวะเทพ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของสี่ศาสนาที่เก่าแก่ของเอเชีย
มนัสโรวาร์(สระอโนดาต) ทะเลสาบแห่งจิตรานุภาพ ทะเลสาบแห่งพรหม

“เมื่อธุลีแห่ง “มนัสโรวาร์” สัมผัสร่าง หรือ เมื่อได้อาบชำระน้ำจากทะเลสาบ ใครผู้นั้นก็จะลุสรวงสวรรค์แห่งพระพรหม และหากใครผู้นั้นได้ดื่มน้ำทะเลสาบ ก็จะลุสรวงสวรรค์แห่งพระศิวะ และจะปลดเปลื้องพ้นจากบาปนับโกฏิชาติ... กระทั่งแม้อสูรผู้กลับใจ เพียงระลึกถึงนาม” มนัสโรวาร์” ก็จะสู่สวรรค์แห่งพระพรหม เช่นกัน”
โศลก จาก มหากาพย์ รามายาณะ

show more

Share/Embed