ชีวิตที่สองบรรพที่ 418 กองวิศวกรรม ตอนที่ห้า กำปงเชอเตียล 2
ทนง ตันชวลิต ทนง ตันชวลิต
372 subscribers
31 views
1

 Published On Jul 17, 2024

ชีวิตที่สอง
บรรพที่ 418 กองวิศวกรรม
ตอนที่ห้า กำปงเชอเตียล 2

บรรพที่ 417 ผมใช้ว่า กัมปงเชอเตียล มาคิดดูอีกที่น่าจะเป็น กำปงเชอเตียล มากกว่า อย่างว่า เป็นภาษาเขมร ผมไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ความหมาย เป็นหมู่บ้าน หรือ ตำบล หรือ อำเภอ
เอาเป็นว่า ผมใช้ กำปงเชอเตียล เป็นโรงเรียนในโครงการหนึ่งของสมเด็จพระเทพฯที่ให้ความช่วยเหลือเขมร
เช้าไปข้ามด่านแต่เช้า คราวนี้ทะลุฉลุย ทางไทยคงติดต่อเรียบร้อย เท่าที่ ทหารบอก ฝั่งเราสายตรงไปยัง เตียบัน ซึ่งเป็นหนึ่งผู้ยิ่งใหญ่เขมรในเวลานั้น
ถนนเป็นดิน ผมสงสัยว่า มันน่าจะเป็น ถนนสมัยสุริยะวรมันต์เรืองอำนาจสร้างไว้ไหม? ดูแล้วเหมือนข้างล่างจะเป็นหินแล้วมันผุพังไปตามกาลเวลา ต่อมาเขมรปัจจุบันง่ายเข้าว่า เอาดินมาถมทับอีกที ตรงไหนหินข้างล่างยุบตัว ถนนก็จะยุบตาม ทำให้หลุมเยอะ วิ่งต้องช้าและระวังหลุม วิ่งไปหยอดไป ขบวนเรารถใหญ่เยอะ วิ่งได้ช้า
ถึงเสียมเรียบมืด ถึงกำปงเชอเตียล ดึก
เข้าที่พัก โรงแรมมิตรภาพ เขมรออกเสียงว่า มิตตะเพียบ สาทิตย์ บอกว่า ทุกรุ่นเรามาพักที่โรงแรมนี้
เช้าเดินทางเข้าพื้นที่เป้าหมาย โรงเรียนกำปงเชอเตียล ซึ่งห่างจากที่เราพักพอสมควร
ระหว่างทำงาน มีอยู่วัน ทหารเขมรพาพวกเราไปหาเกจิอาจารย์ เขาบอกว่า ผู้ใหญ่ทางเขมรนับถือมาก เป็นศิษย์ผู้พี่หลวงพ่อคูณ
ขบวนไป ตอนนั้นวัดกำลังสร้างกำแพง พวกเราบริจาคช่วยวัด หลวงพ่อบอกว่า จะสลักชื่อพวกเราไว้ที่ซุ้มประตูให้ ผมบริจาคมากที่สุด หลวงพ่อแอบเอา พระสามหน้าแกะจากไม้แก่นจันทร์มายัดใส่มือ
ก่อนกลับไทยแวะ มาที่วัด เห็นชื่อพวกเราแกะที่ซุ้มประตู

การดำเนินการของชุดเรา
1. เจาะบ่อน้ำบาดาลให้โรงเรียน จำไม่ได้ว่ากี่บ่อ รวมกับที่ทีมอื่นทำไว้ คงหลายบ่อ ทำให้เกือบได้กินยำส้นตีนเขมร
มีอยู่วันหนึ่ง เย็นแล้ว ชาวบ้านมาขอให้เราไปซ่อมเครื่องสูบมือโยก ซึ่งอยู่นอกเขตุโรงเรียน
ไปดูกัน มองแต่ไกลก็รู้ว่า มันน่าจะแกนชักขาด เพราะหางคันโยกตก(พวกหน่วยซ่อมรู้ดี จริงไหม อมรรัตน์ พูลเพิ่ม)
ถอนขึ้นมาตรวจสอบ เป็นอย่างที่บอก แกนชักขาดตรงข้อต่อ แปลกใจที่ทำไมไม่มีแกนชักใหม่มาเปลี่ยน เพราะปกติ ที่ท้ายรถบูมทุกคัน จะเสียบแกนชักพวกนี้ไว้เป็นอะไหล่
ระหว่างที่เราทำงาน ชาวบ้านเริ่มมามุงซุบซิบกัน ผมถามคนของเราที่เป็นล่ามว่า พวกเขาพูดอะไรกัน ล่ามบอก พวกเขาบอกว่า พวกเราเจาะบ่อในโรงเรียนมากไป ทำให้บ่อบาดาลของพวกเขาแห้ง
ให้ล่ามบอกชาวบ้านว่า ไม่ใช่น้ำในบ่อแห้ง แต่เครื่องสูบมันเสีย พรุ่งนี้จะมาซ่อมให้ ชาวบ้านดูเหมือนว่าจะไม่เชื่อ
มันมืดแล้ว เขมรมุงมากขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มโวยวาย กลัวโดนยำตีน ถอยเข้าโรงเรียน โดยให้อาจารย์โรงเรียน กำปงเชอเตียล เจรจาและเบิกทาง พร้อมบอกชาวบ้านว่า พรุ่งนี้จะซ่อมให้เรียบร้อยแน่นอน รอดตีนเขมรได้
เช้าเข้าตลาดจ้างเขาเชื่อมแกนชัก เอามาเปลี่ยน เป็นอันเรียบร้อย
2. พัฒนาบ่อบาดาล ส่วนใหญ่มักจะใช้คำว่า เป่าล้างบ่อบาดาล ซึ่งมันผิด
การพัฒนาบ่อบาดาล
1. ทำหลังเจาะบ่อเสร็จ เพื่อไล่น้ำโคลนและเศษดินหินที่เราเจาะออกจากบ่อน้ำบาดาล พัฒนาจนน้ำใส
2. ทำหลังใช้งานบ่อ เมื่อใช้ไปนาน ๆจะมีตะกอนเข้ามาในบ่อ และกรวดที่กรุข้างบ่อจะเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ ทำให้ไม่สามารถกันตะกอนได้ เมื่อหลุดเข้ามาสะสมในบ่อบาดาล ประสิทธิภาพการให้น้ำของบ่อบาดาลจะลดลง จึงต้องมีการพัฒนาบ่อบาดาล
การพัฒนาบ่อบาดาล ไม่ใช่แค่ต้องการให้เอาตะกอนที่อยู่ในบ่อออกมาเท่านั้น ยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของบ่อที่ใช้งานมานานให้กลับมาเหมือนหรือเกือบเหมือนเมื่อตอนเจาะบ่อใหม่ ๆ
การพัฒนาบ่อที่ถูกต้อง จะต้องใช้ Eductor ประกอบด้วย หัวอัด ท่อนำ ท่อลมที่ใส่ข้างในท่อนำอีกที และเครื่องอัดลมขนาดตามความเหมาะสม ที่เราใช้จะเป็น ขนาด 250 cfm 7 Bar เป้นส่วนใหญ๋
-ท่อลมยาวกว่าท่อนำ จะทำให้ตะกอนในบ่อถูกลมอัดอุ้มขึ้นมา(Blow action)
-ท่อลมสั้นกว่าท่อนำ น้ำผสมตะกอนจะถูกดูดขึ้นมา(Suction Action) ทำให้กรวดกรุบ่อเรียงตัวกันใหม่ ประสิทธิภาพของบ่อจะกลับคืนมา
ท่อลมจะสั้นจะยาวกว่าท่อนำเท่าไร ขึ้นอยู่กับ ระดับน้ำและปริมารน้ำของบ่อบาดาล เรียกว่า %Submergence
อธิบายไปก็เท่านั้น คงไม่มีใครเข้าใจ หาอ่านได้ใน water well handbook
เคยเห็นการพัฒนาบ่อบาดาลที่ทุเรศที่สุดครั้งหนึ่ง โชว์ อธิบดี รองอธิบดี และผู้ยิ่งใหญ่ชาวน้ำบาดาลหลายคนที่ไปด้วย แต่แปลกไม่มีใครทักท้วง ผมได้แต่สะกิดผอ.ศูนย์ลำปางมาบอก “ทำไมทำอย่างนี้”
เขาตอบผมว่า “เดี๋ยวนี้ใครเขาก็ทำอย่างนี้ทั้งนั้น”
โห กล้าตอบโดยไม่ละอายเลยหรือ
ถ้ารู้ว่ามันเลว แต่ทำตาม ถือว่าเลวกว่า
แต่ถ้าไม่รู้ ถือว่า โง่และทางบ้านมึงไม่อบรมสั่งสน จำแนก เลวดี ขาดศีลธรรมจริยธรรม ไม่มีหิริโอตับปะ เลวได้ใจจริง ๆ
ทุเรศตา น่าอาย น่าเศร้า ของพวกเราชาวน้ำบาดาล
หดหู่ใจ ทดท้อเกินบรรยาย ไม่รักศักดิ์ศรีของพวกมึงเลยหรือ
ค่ำพักที่แพร่ รู้สึกเบื่อหน่ายละอายในแทนพวกมัน ขออนุญาต ไปพักใจ ลาบวชกับอธิบดี แกอนุมัติและอนุโมทนาด้วย ยังขำที่แกถามว่า
“จะลาบวชกี่วันละ ทนง”
“พรรษาหนึ่งครับ”
แกถึงกับอึ้งกิมกี่ ไม่คิดว่า
ผมจะเบื่อนานขนาดนั้น
อาจจะเล่ารายละเอียดของเรื่องนี้เมื่อถึงเวลาของมัน หรืออาจไม่เล่า
เก็บงำมันไว้ในใจ คนเดียว
บรรพนี้คงยาวเกินไปแล้ว แค่ที่เขียนเรื่องที่คนอื่นอ่านไม่รู้เรื่อง มันก็น่าเบื่อแล้ว
มึงเขียนอะไรของมึง
เอาแค่นี้แหละครับ

นงชลิต
18/7/67/9.12
เสียดายที่ตอนนั้นผมไม่ได้เล่นกล้อง รูปทั้งหมดในการทำงานครั้งนี้ เป็นรูปจากกล้องของวิศวกรน้อย สุทธิพล
เดี๋ยวนี้เป็น ผอ.สำนักพัฒนาน้ำบาดาล วิศวกรใหญ่สุด

show more

Share/Embed