The Silk Road Part 21 ตุนหวง/ถ้ำโม่เกา
ทนง ตันชวลิต ทนง ตันชวลิต
366 subscribers
1,705 views
0

 Published On Aug 31, 2019

The Silk Road
Part 21 ตุนหวง/ถ้ำโม่เกา

๕ ตุลาคม ๒๕๕๕
วันนี้ เป้าหมายคือ MOGAO GROTTO 莫高窟(โม่เกาคู)– ZHANGYE Caves of the Thousand Buddha千佛洞 (เชียนฟ๋อต้ง)
เป็นถ้ำที่มีชื่อเสียงมากของจีน เทียบเท่าถ้ำหลงเหมิน และถ้ำในเมืองต้าถง ห้ามถ่ายรูปภายในถ้ำ
เมื่อหลายปีก่อน ถ้ำหลงเหมิน และถ้ำเมืองต้าถง ผมได้ไปดูเป็นขวัญตามาแล้ว คราวนี้คงครบ สามถ้ำพระดังแห่งแดนมังกร
เมื่อวานตอนเดินไปขึ้นรถเมล์เพื่อไป หมิงซาซาน ตรงหัวมุมถนนมีการก่อสร้าง โดยปกติจะต้องมีที่กั้น แสดงพื้นที่ก่อสร้าง และป้องกันเศษวัสดุจากการก่อสร้างร่วงหล่นออกมานอกบริเวณ
ในจีนที่ผนังกั้นส่วนใหญ่จะมีรูป แสดงสถานที่ท่องเที่ยวดังๆของเมืองนั้นๆอยู่ ที่นี่ผมเห็นรูปที่ผมเดาเอาว่า น่าจะเป็นรูปที่ถ้ำโม่เกา ซึ่งผมก็เดาไม่ผิด มีอยู่รูปหนึ่งเป็นพระพุทธรูปปางไสยยาตร ผมชอบมาก พระพักรของท่าน สวยงามอิ่มเอิบ ดูแล้วมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ตอนผมเห็นครั้งแรก(เมื่อวาน) ในใจผมบอกเลยว่า ต้องตามหาท่านให้พบ ส่วนรูปกวนอิมพันมือ เป็นการแสดงที่มีชื่อเสียงของที่นี่(ตอนนั่งรถไป หมิงซาซาน ข้างทางมีโรงละครขนาดใหญ่อยู่ คงแสดงกันที่นี่แหละครับ ใครไปตุนหวง ควรเข้าชมครับ ผมคนบุญน้อย ไม่ได้ชม) หลังจากนั้น ผมก็เดินเก็บภาพแถวๆนั้น ซึ่งเป็นบริเวณตลาดซาโจว และศูนย์อาหาร
ประมาณ เก้าโมงกว่าๆกลับมาที่โรงแรมปรากฏว่า พาสปอร์ตของท่านผู้นำ และของเมียท่านหาย(สงสัยถูกล้วงกระเป๋าตอนไป หมิงซาซาน ถ้าให้ผมเดา เป็นตอนขึ้นรถเมล์กลับ เป็นเวลาที่ทุกคนทยอยกันกลับ คงเบียดเสียดกันขึ้นรถเมล์ และรถคงแน่น ถ้ากลับพร้อมผมผู้คุ้มกัน คงไม่ถูกล้วง 5555 5555 )
วันนี้ท่านผู้นำเลยต้องวิ่งเรื่องพาสปอร์ต ไม่สามารถไปถ้ำโม่เกา ตอนนี้เลยเคว้งคว้างกัน ผมกับเพื่อนอีกสองคน ตัดสินใจไปเที่ยวถ้ำ ท่านผู้นำไปสถานีตำรวจและเดินเรื่อง ที่เหลือ ๓ คนตัดสินใจรอที่โรงแรม (พวกเขา และท่านผู้นำตามไปทีหลัง ไปดูแถวๆหน้าทางเข้า ไม่ได้เข้าไปดูในถ้ำ แต่ไม่เจอกับพวกเรา)
๑๑ โมง เดินมาขึ้นรถเมล์สาย ๘ ไปถ้ำ ถึงถ้ำโม่เกา จากจุดจอดรถ เดินไปที่ประตูทางเข้าค่อนข้างไกล ด้านซ้ายมือเป็นอาคารทันสมัย ตอนนั้นผมไม่ทราบว่า มันเป็นพิพิธภัณฑ์ เลยตัดสินใจ เดินไปทางขวาเพื่อเข้าชมถ้ำก่อน แต่ถ้า ใครได้มาที่นี่ ผมขอแนะนำให้ชมพิพิธภัณฑ์ก่อนครับ เพราะในนั้น จะมีการจำลองถ้ำต่างๆไว้หลายถ้ำ และแสดงการขุดค้น ตกแต่ง ปรับปรุงถ้ำ มีของเก่าอย่างอื่นอีกมากให้เราได้ดู ทำให้เราเข้าใจ เรื่องของถ้ำโม่เกาก่อนไปชมถ้ำครับ ผมมัน หลงผิดทิศผิดทาง ไปดูถ้าก่อน
ผมตามหาพระปางไสยาตร องค์นั้น พยายามให้เพื่อนที่พูดจีนได้ถามเจ้าหน้าที่ว่า ท่านหลับอยู่ที่ถ้ำหมายเลขอะไร เขาก็บอก แต่เมื่อเราไปดูปรากฏว่า ไม่เปิดให้ชม ท่านคงไม่อยากเจอหน้าคนบาปอย่างผมกระมัง
เราตีตั๋วเข้าถ้ำ ๑๖๐ หยวนต่อคน มีเจ้าหน้าที่นำเข้าไปดู ที่ผมชอบมีอยู่ถ้ำหนึ่ง เป็นถ้ำพระใหญ่ ต้องแหงนหน้ามองขึ้นไป ถึงเห็นองค์พระ ทุกคนที่เข้าไป ฮือฮากันใหญ่ เพราะคาดไม่ถึง ทำให้ผมคิดถึง วัดพระอึดอัดในพม่าครับ มองขึ้นไปมีความรู้สึกอย่างนั้น เพราะองค์พระจะอยู่ในที่แคบๆ แต่องค์พระใหญ่เหมือนกัน(แต่วัดพระอึดอัด องค์พระประดิษฐานอยู่ในวิหารขนาดเล็กแทนที่จะเป็นถ้ำเหมือนโม่เกา)
ถ้ำที่เหลืออยู่ในปัจจุบันมีเกือบ ๕๐๐ ถ้ำ แต่เปิดให้ดูเพียงไม่กี่ถ้ำ และไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป เจ้าหน้าที่จะอธิยาย(เป็นภาษาจีน )และส่องไฟให้ดู แต่เราสามารถใช้ไฟฉายของเราส่องดูได้ด้วย ออกจากถ้ำ กลับออกมา เดินเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ ซื้อโปสการ์ด รูปถ้ำโม่เกา มาหลายรูป จับๆหนังสือดู แต่แพงเกินไป เอาเงินมากินกันตายดีกว่า
ประมาณ สี่โมงเย็น เดินทางกลับตุนหวง
๑๘.๐๐ น ขึ้นรถบัสนอน(อีกแล้วๆๆๆๆๆ) ไปเมืองจางเย่ว์
ทนง
๑ ธันวาคม ๒๕๕๕(๐๒.๑๕)

ตีนบันทึก
ถ้ำโม่เกา สร้างโดยการขุดเจาะหมู่ถ้ำเข้าไปในแนวหน้าผาของเขาหมิงซา ระยะยาว ๑๖๕๐ เมตร เจาะเป็นถ้ำ ๕ ชั้น มีถ้ำน้อยใหญ่ ๔๙๒ ถ้ำ มีภาพเขียนฝาผนัง ๔๕๐๐๐ ตารางเมตร รูปปั้น รูปแกะสลัก รวม ๒๔๑๕ รูป ใช้เวลากว่าพันปีนับจากศตวรรษที่ ๓ ถึงศตวรรษที่ ๑๔ ถือเป็นขุมคลัง พระพุทธรูป ภาพเขียน และคัมภีร์ทางพุทธศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในจีน และของโลก แม้ว่าหลายชิ้นจะตกไปเป็นกรรมสิทธิ์ของพิพิธภัณฑ์ในต่างประเทศ โดยเฉพาะในยุโรปก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้รับความเสียหายจากพวกหัวขโมย ขุนศึก พวกมุสลิม และพวกเรดการ์ด แต่ไม่มีครั้งใดจะสร้างความเสียหายได้มากเท่ากับ ครั้งที่นักสำรวจชาวยุโรปอย่าง นาย ออเรล ชไตน์ กับ นาย ปอล เปลลีโย ก่อไว้ปลายศตวรรษที่ ๑๙ ต่อต้น ๒๐ (ไอ้สองคนนี้น่าจะเรียกว่า มหาโจร มากกว่า นักสำรวจ มันคงขนกลับประเทศมันเกือบเกลี้ยง )
ภาพโม่เกาชุดสอง เป็นรูปที่ผมถ่ายจากโปสการ์ดที่ผมซื้อมา อยากให้ท่านได้เห็นความงามของ รูปภาพและรูปปั้นในถ้ำว่ามันสวยงามเพียงใด เผื่อมันจะกระตุ้นความอยากในต่อมสมองให้ออกเดินทางตามหามัน
เพลงที่ใช้ประกอบบทนี้คือ วัชรปรัชญาปรามิตาสูตร

นงชลิต
ปรับปรุงใหม่ 1/9/62/11.33

show more

Share/Embed