ระวัง ❗️โดนหลอก แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม หรือแค่แบตไฟหมด ดูยังไง ดูดีๆ คลิปนี้มีคำตอบ
B.B. Battery B.B. Battery
21.7K subscribers
2,332 views
44

 Published On Aug 16, 2024

แบตเตอรี่รถยนต์ชนิดกรดตะกั่วชนิด SMF ยี่ห้อ Puma รุ่น 75B24L 12V 58Ah

CCA (Cold Cranking Amps)
580 CCA ถือว่าเป็นค่าที่ดีสำหรับแบตเตอรี่ขนาดนี้ ซึ่งหมายความว่าแบตเตอรี่นี้ยังมีความสามารถในการจ่ายกระแสไฟฟ้าสูงเพียงพอในสภาวะเย็น ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่าแบตเตอรี่ยังอยู่ในสภาพที่ดี

ความต้านทานภายใน (Internal Resistance)
5.15 มิลลิโอห์ม เป็นค่าความต้านทานที่ต่ำ ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี เพราะยิ่งค่าความต้านทานต่ำ แบตเตอรี่ก็ยิ่งมีประสิทธิภาพในการส่งกระแสไฟฟ้า ค่าความต้านทานที่ต่ำบ่งบอกว่าแบตเตอรี่นั้นมีสภาพที่ดีและยังคงมีความสามารถในการจ่ายไฟได้ดี
สรุป
จากค่าที่คุณวัดได้ แบตเตอรี่ Puma รุ่นนี้ยังอยู่ในสภาพที่ดี ทั้งในแง่ของ CCA และความต้านทานภายใน ซึ่งหมายความว่ายังสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ


เมื่อทำการคายประจุแบตเตอรี่จนแรงดันไฟฟ้าลดลงเหลือ 11.17V จะส่งผลต่อค่า CCA และค่าความต้านทานดังนี้:

ค่า CCA (Cold Cranking Amps)
CCA จะลดลง: เมื่อแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่ลดลงเนื่องจากการคายประจุ ความสามารถของแบตเตอรี่ในการจ่ายกระแสไฟฟ้าสูงในช่วงสั้น ๆ ก็จะลดลงด้วย ดังนั้นค่า CCA จะลดลงตามไปด้วยเมื่อแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่ต่ำลง

ค่าความต้านทานภายใน (Internal Resistance)
ค่าความต้านทานจะเพิ่มขึ้น: เมื่อแบตเตอรี่ถูกคายประจุ ความต้านทานภายในจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากปริมาณประจุไฟฟ้าในแบตเตอรี่ลดลง นอกจากนี้การเพิ่มขึ้นของค่าความต้านทานยังเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางเคมีภายในเซลล์แบตเตอรี่ที่เกิดขึ้นระหว่างการคายประจุ

สรุป
เมื่อแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่ลดลงถึง 11.17V ค่า CCA จะลดลงและค่าความต้านทานภายในจะเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นธรรมชาติของแบตเตอรี่กรดตะกั่ว เนื่องจากการลดลงของประจุไฟฟ้าจะส่งผลให้ประสิทธิภาพการจ่ายกระแสไฟฟ้าลดลงและความต้านทานภายในเพิ่มขึ้น

ถ้าแบตเตอรี่ของคุณถูกคายประจุจนแรงดันไฟฟ้าลดลงเหลือ 11.17V และคุณไม่ได้ปล่อยให้แบตเตอรี่ค้างอยู่ในสภาพนี้นานเกินไป แบตเตอรี่จะยังไม่เสียและสามารถฟื้นฟูได้โดยการชาร์จใหม่ อย่างไรก็ตาม มีบางประเด็นที่ควรระวัง:

ผลกระทบจากการคายประจุต่ำ
การคายประจุอย่างลึก (Deep Discharge): การปล่อยให้แบตเตอรี่กรดตะกั่วลดลงจนแรงดันไฟฟ้าต่ำมากๆ อย่างต่อเนื่องสามารถทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้นได้ ถ้าเกิดขึ้นบ่อยครั้ง อาจทำให้ประสิทธิภาพลดลงและอายุการใช้งานสั้นลง

การเกิดซัลเฟต (Sulfation): เมื่อแบตเตอรี่คายประจุจนแรงดันต่ำ อาจเกิดการสะสมของคริสตัลซัลเฟตบนแผ่นธาตุ ซึ่งถ้าไม่ได้รับการชาร์จคืนอย่างเหมาะสม อาจทำให้การฟื้นฟูความจุเต็มของแบตเตอรี่ทำได้ยากและทำให้แบตเตอรี่เสียหายอย่างถาวร

ข้อแนะนำ
การชาร์จคืน: ควรชาร์จแบตเตอรี่กลับให้เต็มโดยเร็วหลังจากที่แรงดันไฟฟ้าลดลง การชาร์จคืนอย่างเต็มที่สามารถช่วยฟื้นฟูความสามารถในการจ่ายกระแสและลดความเสี่ยงของการเกิดซัลเฟต

หลีกเลี่ยงการคายประจุอย่างลึกบ่อยครั้ง: พยายามรักษาระดับแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยปกติควรหลีกเลี่ยงการคายประจุจนแรงดันไฟฟ้าต่ำกว่า 12V

สรุป
ถ้าแบตเตอรี่เพิ่งถูกคายประจุและคุณสามารถชาร์จคืนได้อย่างรวดเร็ว โอกาสที่แบตเตอรี่จะเสียหายมีน้อย แต่หากการคายประจุอย่างลึกเกิดขึ้นบ่อย ๆ หรือแบตเตอรี่ถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพคายประจุเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพได้

หากคุณสังเกตว่าแบตเตอรี่เริ่มสูญเสียประสิทธิภาพในการเก็บประจุหรือการจ่ายกระแสไฟ อาจเป็นสัญญาณว่ามีความเสียหายบางส่วนแล้ว

⚡⚡สอบถามข้อมูลได้ที่บีบีแบตเตอรี่⚡⚡
📞 02 - 931 - 1735
📞 08 - 7908 - 4528
📞 08 - 4332 - 2319

✅ เว็บไซต์ : https://www.batterybbdelivery.com/

✅ LINE OFFICIAL : @bbbattery หรือคลิก https://lin.ee/GM8o03f

#คายประจุแบตเตอรี่
#แบตเตอรี่รถยนต์
#ดูแลแบตเตอรี่
#ทดสอบแบตเตอรี่
#ชาร์จแบตเตอรี่
#ซัลเฟตแบตเตอรี่
#แบตเตอรี่กรดตะกั่ว
#แบตเตอรี่SMF
#แรงดันไฟฟ้าแบตเตอรี่
#การบำรุงรักษาแบตเตอรี่
#แบตเสื่อม
#แบตหมด

show more

Share/Embed