แบตเตอรี่ใหม่ จอดรถไว้ 1 สัปดาห์ ไฟตกเหลือ 7.8V เป็นเพราะอะไร? เสียหรือไม่? คลิปนี้มีคำตอบ
B.B. Battery B.B. Battery
21.7K subscribers
1,741 views
37

 Published On Aug 27, 2024

📣 แบตเตอรี่ใหม่ จอดรถไว้ 1 สัปดาห์ ไฟตกเหลือ 7.8V เป็นเพราะอะไร? เสียหรือไม่? คลิปนี้มีคำตอบ

แบตเตอรี่รถยนต์ใหม่ที่ยังไม่ผ่านการใช้งานปกติจะมีแรงดันไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 12.6 ถึง 12.8 โวลต์ สำหรับแบตเตอรี่แบบตะกั่ว-กรด (Lead-Acid Battery) ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่ใช้ทั่วไปในรถยนต์ หากแรงดันไฟฟ้าต่ำกว่า 12.4 โวลต์ แสดงว่าแบตเตอรี่อาจจะเริ่มเสื่อมสภาพหรือมีการคายประจุแล้วครับ

หากจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ปกติแล้วแบตเตอรี่รถยนต์ไม่ควรจะหมด แต่มีบางปัจจัยที่อาจทำให้แบตเตอรี่หมดได้ เช่น:

อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่ตลอดเวลา เช่น ระบบกันขโมย นาฬิกา วิทยุ และระบบควบคุมของรถยนต์บางประเภท อุปกรณ์เหล่านี้ใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะอยู่ในโหมดสแตนด์บาย การใช้ไฟฟ้าเล็กน้อยนี้อาจทำให้แบตเตอรี่คายประจุเร็วขึ้น

แบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพ หากแบตเตอรี่ของรถยนต์เริ่มเสื่อมสภาพหรือมีอายุการใช้งานนานแล้ว ความสามารถในการเก็บประจุจะลดลง และอาจทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วขึ้นเมื่อไม่ได้ใช้งาน

อากาศหนาวเย็น อากาศเย็นจัดอาจทำให้ประสิทธิภาพการเก็บประจุของแบตเตอรี่ลดลง ทำให้การจอดรถในที่หนาวเย็นอาจส่งผลให้แบตหมดเร็วขึ้น

ถ้ารถของคุณมีแบตเตอรี่ที่ยังอยู่ในสภาพดี และอุปกรณ์ต่าง ๆ ถูกปิดใช้งานอย่างสมบูรณ์ ปกติแล้วการจอดรถทิ้งไว้ 1 สัปดาห์จะไม่ทำให้แบตเตอรี่หมด แต่ถ้าต้องการความมั่นใจ สามารถถอดขั้วลบของแบตเตอรี่ออกเพื่อป้องกันการคายประจุครับ


แบตเตอรี่โอเวอร์ดิสชาร์จ (Overdischarge) คือสถานะที่แบตเตอรี่ถูกใช้งานหรือคายประจุจนแรงดันไฟฟ้าลดลงต่ำกว่าระดับที่แบตเตอรี่ควรจะมีสำหรับการทำงานปกติ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายถาวรต่อแบตเตอรี่ได้ โดยเฉพาะในแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน (Li-ion) หรือแบตเตอรี่แบบตะกั่วกรด (Lead-Acid) ที่มีการออกแบบมาให้ทำงานในช่วงแรงดันที่กำหนดเท่านั้น

ผลกระทบของการโอเวอร์ดิสชาร์จ
การเสื่อมสภาพของเซลล์แบตเตอรี่: เมื่อแรงดันไฟฟ้าลดลงต่ำเกินไป เซลล์ภายในแบตเตอรี่อาจเกิดการเสื่อมสภาพ ซึ่งทำให้ความจุและประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ลดลงอย่างรวดเร็ว

การสร้างความเสียหายภายใน (Internal Damage): โอเวอร์ดิสชาร์จสามารถทำให้เกิดการสะสมของสารเคมีที่ไม่พึงประสงค์ภายในแบตเตอรี่ เช่น การก่อตัวของซัลเฟต (Sulfation) ในแบตเตอรี่แบบตะกั่วกรด ซึ่งทำให้ความสามารถในการชาร์จและปล่อยกระแสไฟลดลง

ความเสี่ยงในการเกิดปัญหาอื่นๆ: ในกรณีของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน การโอเวอร์ดิสชาร์จอาจทำให้เกิดความไม่สมดุลของเซลล์ และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดความร้อนสูง (Thermal Runaway) เมื่อชาร์จไฟอีกครั้ง

วิธีป้องกันแบตเตอรี่โอเวอร์ดิสชาร์จ
ใช้งานอุปกรณ์ป้องกันการโอเวอร์ดิสชาร์จ: การติดตั้งอุปกรณ์ที่เรียกว่า "Battery Management System" (BMS) หรือระบบจัดการแบตเตอรี่ ที่สามารถตรวจสอบและควบคุมการคายประจุของแบตเตอรี่ เพื่อป้องกันไม่ให้แรงดันไฟฟ้าลดลงต่ำเกินไป

ตรวจสอบสถานะของแบตเตอรี่เป็นระยะ: ควรตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะเมื่อรถยนต์หรืออุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่ไม่ได้ถูกใช้งานเป็นเวลานาน

อย่าปล่อยแบตเตอรี่ให้หมดจนเกินไป: หากรู้ว่ารถหรืออุปกรณ์จะไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน ควรทำการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มหรือถอดออกจากอุปกรณ์เพื่อลดความเสี่ยงในการโอเวอร์ดิสชาร์จ

การดูแลและป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่โอเวอร์ดิสชาร์จเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่และรักษาประสิทธิภาพในการใช้งานได้ยาวนานขึ้น

⚡⚡สอบถามข้อมูลได้ที่บีบีแบตเตอรี่⚡⚡
📞 02 - 931 - 1735
📞 08 - 7908 - 4528
📞 08 - 4332 - 2319

✅ เว็บไซต์ : https://www.batterybbdelivery.com/

✅ เว็บไซต์ : https://xn--m3caabph7cgh3h3d2fk9h4b.com/

✅ LINE OFFICIAL : @bbbattery หรือคลิก https://lin.ee/GM8o03f

#แบตเตอรี่รถยนต์ #ไฟตก #โอเวอร์ดิสชาร์จ #แบตเตอรี่เสื่อม #ดูแลรถยนต์ #ปัญหาสตาร์ทไม่ติด #ระบบไฟฟ้ารถยนต์ #แรงดันไฟฟ้า #แบตเตอรี่ใหม่ #ดูแลแบตเตอรี่ #ปัญหาแบตเตอรี่ #ตรวจสอบรถยนต์

show more

Share/Embed