บนสังคมออนไลน์มีการแชร์ สูตรกะปิ ผงชูรส และเครื่องดื่มชูกำลัง เร่งรากให้กับพืช เรื่องนี้จริงหรือไม่ ติดตามกับ คุณพีรพล อนุตรโสตถิ์ จากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์

🎯 ตรวจสอบกับ ผศ.ดร.รัฐ พิชญางกูร
อาจารย์ประจำภาควิชาชีวเคมี คณะวิทยาศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
และ รศ. ดร. พูนพิภพ เกษมทรัพย์
อาจารย์ประจำภาควิชาภาควิชาพืชสวน
คณะเกษตรศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์
🔎 ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย ณัฐี วัฒนกูล

-----------------------------------------------------

📌 สรุป : ❌ ไม่ควรแชร์ต่อ ❌

Q : สูตรเร่งรากจากกะปิ ผงชูรส และเครื่องดื่มชูกำลังใช้ได้จริงไหม ?
A : ส่วนใหญ่เป็นอาหารพืช แล้วก็ทำให้การอยู่รอดเขาดีขึ้น
แต่สารในนี้ ยังไม่เห็นว่าตัวไหนสามารถกระตุ้นให้เกิดการแตกรากได้

มันไม่มีหลักฐานอะไรเลยที่บอกว่ามันจะทำให้มันแตกรากได้
และยิ่งมาบอกว่ามันเป็นอาหารของจุลินทรีย์
ซึ่งจะทำให้ต้นไม้แตกรากได้ เติบโตดีขึ้นเนี่ยยิ่งแย่ใหญ่เลย
เพราะว่าจุลินทรีย์ที่มี แบคทีเรียที่มีเนี่ย
เป็นตัวการทำให้การปักชำไม่สำเร็จ
เราต้องพยายามรักษาให้มันสะอาด
รักษาให้มันไม่มีการติดเชื้อ
ยิ่งใส่อาหารที่มียิ่งน่ากลัว ยิ่งอันตราย

Q : โดยธรรมชาติแล้วรากพืชเจริญเติบโตอย่างไร ?
A : รากเจริญเติบโตได้ด้วยน้ำตาลที่ต้นไม้สร้างเองแล้วก็ส่งมา
แต่การแตกรากเนี่ยจะแตกต่าง
การแตกรากจะต้องทำให้เซลล์กลุ่มหนึ่งที่อยู่ในราก
เปลี่ยนสภาพกลายป็นเซลล์ที่กำเนิดรากออกมา
ตรงส่วนใหญ่มันก็จะเป็นสมดุลของฮอร์โมนของพืชเอง

Q : เขาบอกว่ากะปิมีแคลเซียม โอเมก้าสามสูง
เป็นสารที่ช่วยให้รากเจริญเติบโตได้ดี จริงไหม ?
A : มีจริง กะปิก็คือมีโอเมก้าสามจริงมีแคลเซียมจริง
ทั้งสองตัวนี้ดีสำหรับคน
แต่ไม่เคยได้ยินว่ามันดีสำหรับการที่จะทำให้ต้นไม้แตกราก
โอเมก้าสามมีจริง สารอาหารน่ะน่าจะมีจริง
แต่เค้าจะบอกว่ามันเลี้ยงจุลินทรีย์และทำให้รากเจริญเติบโตได้
อันนี้ ไม่ค่อยจะน่าเชื่อถือเท่าไหร่

น้ำมันไม่ละลายน้ำ
ใส่เข้าไป ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันดูดซึมเข้าไปในพืชหรือเปล่า
ส่วนแคลเซียมมี แต่ว่าไม่มีงานวิจัยแสดงออกมาให้เห็นเลยว่า
การเติมแคลเซียมนั้นทำให้รากงอก
แคลเซียมไม่ได้กระตุ้นรากงอกแน่ๆ

Q : แต่กะปิอาจจะช่วยเร่งการออกดอกผลของพืชได้ ?
A : ในกะปิอาจจะมีสารพวกไคติน ไคโตซาน
ก็เป็นสารพวกกลุ่มน้ำตาลแต่เป็นน้ำตาลที่แปลกประหลาด
เจอในไหน ในแมลง แมง กุ้ง ปู และในเชื้อเห็ดรา
ด้วยธรรมชาติเนี่ยแมลง แมง กุ้ง ปู และเห็ดราเนี่ยมันเป็นศัตรูของพืช
พืชเองก็จะสร้างระบบขึ้นมารับรู้ว่ามีสารเหล่านี้ใกล้ๆ

จริง ๆ แล้วมันกระตุ้นความเครียด
พืชมันหนีไปไหนไม่ได้
เครียดมาก ๆ ปั๊บ ทำไง?
ดินเค็ม เครียดมากๆ
หนีไปไหนก็ไม่ได้ทำไง
ตายชัวร์... ออกดอก ประหลาดมาก
เอาอาหารทั้งหมดไปออกดอก
เกิดเมล็ด ทิ้งเมล็ดปลิวไปตกที่อื่น
เอาละ แม่จะตายแล้วพ่อจะตายแล้ว ลูกไปงอกที่อื่น
สภาวะไม่เหมาะสมแล้ว
คุณจะดูดี ๆ ล่ะ ผลผลิตจากพืชส่วนใหญ่
เกิดเนื่องมาจากความเครียด

Q : เขาบอกเครื่องดื่มชูกำลังมีวิตามิน เกลือแร่ และน้ำตาล
ซึ่งเป็นอาหารของจุลินทรีย์ มีประโยชน์อย่างมากกับรากไม้
กระตุ้นให้ดูดซึมได้ดี ?
A : มันเป็นการจับแพะชนแกะ ผมถึงไม่เชื่อถือเลย
ถามว่าจุลินทรีย์ช่วยให้รากต้นพืชนี่นะ
ดูดซึมสารอาหารให้ดีขึ้นมีจริงมั้ย
มี พวกไมคอร์ไรซา แต่ไม่ใช่แบบนี้
ไมคอร์ไรซาเป็นจุลินทรีย์เฉพาะกลุ่มหนึ่ง
มีวิตามิน มีเกลือแร่
เกลือแร่ผมยังไม่เห็นว่ามีซักเท่าไหร่นะ
แต่วิตามินกับตัวน้ำตาลมีแน่นอน
มันก็เป็นอาหารของทุกอย่าง

จุลินทรีย์ โตมั้ย ? โต
พืชดูดไปใช้ได้มั้ย ? ได้
กระตุ้นให้แตกรากหรือเปล่า ? ไม่รู้
แต่ถ้าพืชดูดเข้าไปทำให้มีอาหารสะสมในต้นมากขึ้นมั้ย ? มี
โอกาสจะรอดมีสูงขึ้นมั้ย ? สูงขึ้น

แต่น้ำตาลอาจจะทำให้เกิดราขึ้นได้
จุลินทรีย์ที่เกิดขึ้นในดิน
เป็นจุลินทรีย์ที่ดีกับพืชหรือเปล่า ไม่รู้
อาจจะไม่ดีก็ได้ เชื้อราก็กินได้
แบคทีเรียก็กินได้ ตัวที่ก่อโรคพืชก็โตได้
ไม่เชื่อไปลองดู

Q : เขาบอกผงชูรสมีกรดอะมิโนยี่สิบชนิดที่สำคัญต่อพืชจริงไหม ?
A : ยี่สิบชนิดเนี่ย ผิด
อันนี้เป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง
ผงชูรสเป็นสารบริสุทธิ์ ค่อนข้างบริสุทธิ์มาก
มียี่สิบตัวมั้ย จึงไม่ใช่
เป็นตัวเดียวคือกรดกลูตามิค และอยู่ในรูปของเกลือโซเดียม
โซเดยีมก็ไม่ค่อยดี
ใส่เยอะก็อาจจะมีผลเสียได้เหมือนกัน
Glutamic acid เนี่ยจะให้พลังงานแล้วก็ให้ไนโตรเจนกับพืชได้
ถ้าคุณใส่ในปริมาณที่เหมาะสม
กรดอะมิโน มีประโยชน์ต่อพืชจริงได้มั้ย
มันมีประโยชน์กับพืชจริง
แต่ถามว่าพืชจำเป็นจะต้องได้มันจากข้างนอกมั้ย
ผมไม่คิดว่ามันจำเป็นจะต้องได้มาจากข้างนอก

Q : แล้วถ้าต้องการลองใช้สูตรนี้ มีข้อควรระวังอะไรบ้าง ?
A : ไม่จำเป็นเลย พืชต้องการอะไร
ต้องการแสง ต้องการน้ำ ต้องการธาตุอาหารสิบหกชนิด
สิบหกชนิดนี้ก็ต้องการมากน้อยต่างกัน
ที่เหลือนอกจากนั้นเนี่ยพืชสร้างเองได้
ต้นไม้ สังเคราะห์แสงก็สร้างกลูตาเมตอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้น มันไม่ได้มีความจำเป็นอะไรที่ต้องไปเติมให้มัน
แต่ว่าถ้าใครอยากใช้ ทดลองใช้เล็ก ๆได้
แต่ว่าอย่าไปทำเป็นการค้าเยอะๆมันจะเสียหายได้
ตัวที่จะมีอันตรายต่อพืชอันที่หนึ่งคือเรื่องของความเข้มข้น
ต้องเจือจางให้อยู่ที่ความเข้มข้นที่เหมาะสม
ในขณะเดียวกันคุณก็ไม่ควรไปแช่ทิ้งไว้นาน ๆ
มันก็มีสิทธิที่จะมีแบคทีเรียและร่าเนี่ยซึ่งเป็นโรคพืช
มันก็มีสิทธิที่โรคพืชก็โตได้เหมือนกัน

Q : สรุปแล้วสูตรที่ว่านี้เป็นอย่างไร ?
A : ไม่แนะนำ ไม่เห็นผลการทดลองที่พิสูจน์ออกมาว่ามันใช้แล้วมันดีจริง
ถ้าอยากจะเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังก็ได้
แต่คนฟังก็ควรจะมีวิจารณญาณ
หาความรู้เพิ่มเติมนิดนึง
ประเด็นในการเลือกกิ่งชำ
ประเด็นในการบริหารจัดการความชื้น
ควบคุมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม
มีโอกาสทำให้การปักชำสำเร็จมากกว่าการมาทดลองใช้สารพวกนี้

👉 หากตรวจสอบคุณสมบัติและใช้อย่างถูกต้อง
จะสามารถสร้างประโยชน์สูงสุดจากสิ่งของที่หาได้รอบตัว

-----------------------------------------------------

🎯 หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ "ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์" 🎯