ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนนะครับว่าผมไม่ใช่นักวิชาการอะไรทั้งนั้น...เป็นเพียงลูกชาวนาคนหนึ่ง ที่พ่อแม่ ปาย่าตายายทำไร่ทำนา..และก็ทำนามาตั้งแต่พระเจ้า 3 หำ..และสิ่งที่ผมจะกล่าวไปต่อไปนี้มันก็เป็นวิชาชีววิทยาทั้งแต่สมัยที่พวกเราเรียนมัธยมกัน...ก็เลยนำความรู้มาปรับใช้กับการเป็นชาวไร่ชาวนามาแต่เดิมมาคุยเรื่องของเราต่อกันเลยครับ......ก็จากการที่เราทดลอง ไม่มีผลการวิจัยไหนเลยบอกว่า 3อย่างที่กล่าวมา...ไม่ว่าจะเป็น ชูรสเครื่องดื่มชูกําลัง และก็กะปิจะช่วยเร่งรากได้....ซึ่งผมคิดว่าถ้าเราใช้และทำจริงๆตามที่บอกว่า กะปิ ผงชูรส เครื่องดื่มชุกำลัง ...เป็นจุลินทรีย์และแบคทีเรียที่ไม่สามารถที่จะทำให้การปักชำหรือการเร่งรากได้สำเร็จและยิ่งใช้พวกนี้เขาไปยิ่งจะทำให้รากเน่ายิ่งน่ากลัวยิ่งอันตรายต่อพืชด้วยนะครับมาคุยกันต่อครับสำหรับสูตรน้ำยาเร่งรากของเรา ไม่ว่าจะเป็นกะปิเครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งจาก 3 อย่างนี้นะครับพี่ว่ามาเนี่ยผมคิดว่ามันไม่สามารถที่จะเร่งรากได้เลย เพราะถ้าเราใช้ 3 สิ่งผสมรวมกันแล้ว ยิ่งมาชุบมาแช่ท่อนพันธุ์เพื่อเร่งราก ก็ยิ่งไม่น่าที่จะทำให้รากของพืชงอกมาได้ เพราะเมื่อชุบท่อนพันธุ์ยิ่งจะเป็นการหมักผมทำให้เกิดเชื้อราเชื้อโรคเพราะการหมักรวมกันแต่ละอย่างไม่ว่าจะเป็นกะปิก็มีส่วนประกอบของสัตว์ทะเลต่างๆนะครับและก็ขึ้นรถพร้อมทั้งเครื่องดื่มชูกำลังยิ่งจะทำให้มีการหมักหมมและทำให้เกิดการเน่าของท่อนพันธุ์ที่เราชุบไปนะครับจริงๆแล้วล่ะพืชมันเจริญเติบโตด้วยน้ำตาลที่พืชสร้างขึ้นเอง.. ซึ่งน้ำตาลจากผงชูรสหรือเครื่องดื่มชูกำลังต่างๆมันไม่สามารถที่จะไปเสริมให้พืชแตกรากได้เลยมาดูทีละตัวนะครับที่บอกว่ากะปิมีแคลเซียมมีโอเมก้า 3 ที่จะทำให้ต้นไม้แตกรากหรือพืชแตกรากเนี่ย...โดยจริงแล้วมันก็ให้แคลเซียมสำหรับคนนะครับ...เพราะว่าที่กะปิทำมาจากพวกกุ้ง ปลาป่น และสัตว์ทะเลต่างๆต่างๆจะให้แคลเซียมสำหรับคน...แต่สำหรับพืชนั้น ไม่น่าจะได้ประโยชน์อะไร...เพราะถ้าเราแช่ไปตระไคร้นานๆยิ่งจะทำให้รากเน่าเกิดเชื้อราหมักหมมและสร้างเชื้อราให้กับพืชอีกด้วย และที่สำคัญแคลเซียมไม่ได้กระตุ้นรากให้งอกแน่นอนมาดูเครื่องดื่มชูกำลังกันนะครับ ที่บอกว่าเครื่องดื่มชูกำลังมีวิตามินเกลือแร่และก็น้ำตาลซึ่งเป็นอาหารและสามารถเร่งรากได้และกระตุ้นรากได้ ....ยิ่งไม่น่าเชื่อถือเลยนะครับ ...เพราะจริงๆแล้วพวกน้ำตาลต่างๆผมได้บอกไปแล้วข้างต้น ว่าน้ำตาลพืชสามารถสร้างได้เองจากการสังเคราะห์แสง โดยมีคลอโรฟิลล์ทำหน้าที่ดูดพลังงานแสงจากดวงอาทิตย์แล้วเปลี่ยนสารวัตถุดิบคือน้ำและแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ให้เป็น น้ำตาลกลูโคส แล้วก็เปลี่ยนสภาพน้ำตาลกลายเป็นแป้ง วิตามินต่างๆเพื่อไปเลี้ยงส่วนต่างๆของพืช....และการที่เอาน้ำตาลไปแช่อย่างนั้น จะส่งผลให้พืชเกิดเชื้อราและแบคทีเรียได้ซึ่งก่อให้เกิดโรคพืชตามมามาดูผงชูรสกันบ้างนะครับ ...ที่บอกว่าผงชูรสมีกรดอะมิโนเกือบ 20 ชนิด ....ด้วยจริงๆแล้วผงชูรสเป็นสารที่บริสุทธิ์มากๆ จะมีกรดอะมิโน 20 ตัวเป็นไปไม่ได้ ..จากการที่ผมได้ศึกษาหาข้อมูลเรื่องผงชูรส...ผงชูรสมีกรดตัวเดียวคือกรดกลูตามิก...อยู่ในรูปของเกลือโซเดียม....ซึ่งกรดกลูตามิกเนี่ย...ผมคิดว่าไม่น่าจะจำเป็นต่อพืชก็จากการทดลองนะครับแค่เราแช่น้ำเปล่าทิ้งไว้สักคืนสองคืนตะไคร้ก็สามารถมีรากงอกออกมา..จริงๆแล้วตะไคร้เป็นพืชที่รากงอกมาก ถ้าเราทิ้งไว้ข้างนอกร่างแทบจะไม่โผล่หรือไม่งอกเลย..แต่ฝั่งที่ใช้สูตรน้ำยาเร่งราก ผงชูรส เครื่องดื่มชุกำลัง และก็กะปินั้น..มีรากงอกมาเพียงนิดเดียว...แถมยังเกิดการเน่าและส่งกลิ่นเหม็นอีกด้วย..ถ้าทอ้งไปนานๆ ตะไคร้คงเน่าแน่นอน..และถ้านำไปลงแปลงปลูกคงเป้นแหล่งรวมเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียแน่นอน...สรุปก็คือมันไม่ได้ผลอะไรเลย.... ...ถ้าเพื่อนๆพี่น้องเกษตรได้ดูอยู่ก็โปรดใช้วิจารณญาณและก็หาความรู้เพิ่มเติมอย่าเชื่ออะไรง่ายๆ....ถ้าเราเข้าใจหัวใจของพืชว่าต้องการอะไร เราจะปลูกพืชได้โตและได้ผลผลิตตามที่เราต้องการ....การที่รากพืชจะงอกนั้นขึ้นกับว่า...เราควบคุมสภาพแวดล้อม....สภาพอากาศ...น้ำ...และแสงที่เหมาะสม...ก็จะมีโอกาสทำรากงอกได้...โดยจริงๆแล้วพืชต้องการอะไร..พืชต้องการแค่แสง ต้องการน้ำต้องการธาตุอาหาร ซึ่งสารอาหารที่ได้กล่าวมาจากผงชูรสกะปิและก็เครื่องดื่มชูกำลัง ก็สามารถสร้างได้เองโดยการสังเคราะห์แสง...เพราะฉะนั้นแล้วพืชไม่มีความจำเป็นที่ต้องการธาตุอาหารเหล่านี้..


----------------------------------------------------------------------------


ติดต่อฅนเกษตร :   / konkaset89  

ติดต่อทีมงาน Production :   / korkai.studio9