ฮาร์บิน2024 l ด้วยตัวเอง 5วัน 4 คืน (-27องศา) พูดจีนไม่ได้แต่ l ค้นเส้นทาง-Seek a Way
ชีวิตคือการเดินทาง Life is a Journey ชีวิตคือการเดินทาง Life is a Journey
1.1K subscribers
4,562 views
0

 Published On Feb 8, 2024

ฮาร์บิน เมืองน้ำแข็ง ดินแดนเก่ารัสเซีย
อากาศติดลบ -27 ประเทศที่ชื่อว่าจีน

DAY1
ก่อนจะมาถึงที่ฮาร์บิน ผมได้เปลี่ยนเครื่อง 1 รอบ ที่เซียงไฮ้ ฉะนั้นใครก็ตามจะบินมาเมืองฮาร์บิน ต้องเปลี่ยนเครื่อง 1 รอบ ขึ้นอยู่สายการบินไหน ที่จะเลือกเปลี่ยนเครื่องเมืองอะไร ฮาร์บินไม่มีบินตรงนะ ผมบินช่วง 15.00 น. ถึงฮาร์บิน 18.00 น. ทันทีที่ถึงเมืองฮาร์บิน บอกเลยมันแทบจะคนละประเทศที่เจอมาเมื่อเช้า สิ่งแรกที่พบเจอและสัมผัสได้ก็คืออากาศที่แสนเหน็บหนาว อุณหภูมิลงต่ำถึง -18 องศา เหนื่อยกับการสื่อสารที่ยากแล้ว ยังต้องมาเดินหารถบัสที่จะเข้าสู่ตัวเมืองอีก จากสนามบินไปสู่ใจกลางเมืองอยู่ที่ประมาณ 40 กิโล สวนตั๋วรถบัสหาซื้อได้จากในสนามบินเลย ช่วงขาออกที่จะมาขึ้นรถบัส ผมนั่งสาย 3 ราคาคนละ 20 หยวน ผมนั่งมาลงสุดสายและมาลงที่ Central Street สถานีสุดท้ายของรถบัส ลงเสร็จก็หาโบก TAXI ไปโรงแรมต่อ ที่ฮาร์บิน TAXI สตาร์ทที่ 8 หยวนนะ พอลงรถเสร็จทุกครั้งไม่ว่าราคาจะขึ้นที่ 10,11,12 หยวน เราจะต้องจ่ายเพิ่มอีก 1 (เช่น ราคาตอนจ่าย 11 หยวน เราต้องจ่าย 12 หยวน) แอบงงเหมือนกัน เป็นแบบนี้ทุกคันนะ พอถึงโรงแรมก็รีบเช็คอินขึ้นห้อง รีบหยิบชุดที่มีมาใส่ เพราะยิ่งดึกก็ยิ่งหนาว และที่สำคัญเมืองฮาร์บิน 16.00 น. ก็ฟ้ามืดแล้ว มืดเหมือนบ้านเราตอน 19.00 น. ผมรีบโบก TAXI ให้ไปส่งที่ถนนจงหยาง (zhongyang street) คืนแรกขอมาหาอะไรทานชิวๆ ร้อนๆ ที่ถนนคนเดินนี้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยลุยกันใหม่

DAY2
วันนี้ก่อนจะพาไปเที่ยว ขอแอบระบายเรื่องกล้องก่อน ผมเองก็ไม่เคยพากล้องไปลุยกับอากาศหนาวขนาดนี้ วันนี้จึงได้บทเรียนราคาแพงเรื่องกล้อง กล้องถ้าอยู่ที่หนาวมากๆ แบตหมดเร็ว ถ่ายๆอยู่ก็เกิดเอ๋อๆ ภาพติดๆ หายๆ ทำให้หลายโมเมนต์กับภาพสวยๆอาจหายไป พยายามจนหมดปัญญาจริงๆ วันที่2 ของฮาร์บิน เช้านี้ผมตั้งใจจะเดินจากโรงแรมไป Saint Sophia's Church ด้วยระยะทางกว่า 3 กิโล ใจที่เลือกเดินเพราะอยากเก็บเกี่ยวความสุขระหว่างทาง และร้านอาหารที่ถูกใจร้านไหนก็จะแวะแบบไม่มีแพลน แต่การเดินในที่หนาวๆอากาศติดลบจัดๆแบบนี้ มันทำให้ผมลืมคำว่าเหนื่อยไปชั่วขณะ มีแต่โฟกัสหิมะระหว่างทาง เดินไปเดินมาก็มาเจอร้านอาหารร้านหนึ่งก่อนถึง Saint Sophia's Church ห่างออกไปไม่เกิน 500 เมตร สั่งมาม่าแบบซุปของทางร้านมาทาน อร่อยมาก ราคาไม่แพง ที่สำคัญเจ้าของร้านหน้ารักมาก คุณลุงทางร้านให้เกียรติมาก ออกมาปรุงให้ถึงโต๊ะ พอทานเสร็จก็เดินไปที่ Saint Sophia's Church อยากบอกว่าถ้านึกไม่ออกว่าโบสถ์ที่นี่สวยยังไง ให้จินตนาการโบสถ์ที่รัสเซีย มันสวยแทบไม่ต่างกันเลยจากของรัสเซีย เพราะโบสถ์ที่ฮาร์บิน รัสเซียเองเป็นคนมาสร้างสมัยที่เข้ามายึดปกครองเมืองนี้ ที่นี่เลยเป็นแลนด์มาร์คสำคัญเมื่อมาเยือนฮาร์บิน สามารถเข้าชมภายในโบสถ์ได้นะ แต่เสีย 10 หยวน ส่วนผมขอแค่เก็บภาพสวยๆอยู่ข้างนอกพอแล้ว แต่ขอบอกตรงนี้เลย ไม่ง่ายนะกับการจะเก็บภาพสวยๆที่โบสถ์นี้ เพราะผู้คนมาถ่ายรุปเยอะมาก และอาชีพช่างภาพที่รับถ่ายกับชุดคอสเพลย์ก็อย่างเยอะ ฉะนั้นต้องใช้ความหน้าด้านในการยืนถ่ายภาพสู้กับคนจีน เพราะมารยาทใช้กับคนจีนไม่ได้จริงๆ แต่คนดีก็มีนะ(แค่ส่วนน้อย)

DAY3
เช้านี้มีแพลนไปผจญภัยอีกฝั่งของแม่น้ำซงฮวา แม่น้ำที่ถูกความหนาวเข้าปกคลุมจนกลายเป็นน้ำแข็ง ถ้าไม่ติดลบถึง 30 องศา แม่น้ำคงมิอาจเป็นน้ำแข็งได้ขนาดนี้
ผมนั่ง Cable Car เพื่อไป Sun Island โดยการซื้อตั๋วฝั่งสวนสตาลิน ราคา ไป-กลับ คนละ 100 หยวน พอไปถึงก็จะมีเทศกาลหิมะต่างๆให้ได้รับชม แต่ผมไม่ได้เข้าไปเพราะสู้ราคาตั๋วไม่ไหว แพงเกิน คนละ 200+++หยวน ขอแค่มาเสพหิมะบริเวณรอบนอกพอ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว พอเดินได้จนรู้สึกเบื่อก็ลงไปในแม่น้ำที่เป็นน้ำแข็ง ณ จุดตรงนี้จะมีกิจกรรมให้เราเลือกเล่นหลายอย่าง ต่างละอย่างราคาก็ต่างกันออกไป ผมลองนั่งห่วงยางที่ให้รถลาก ตกคนละ 50 หยวน พูดตามตรงความเสียวไม่มีเลย แต่ความหนาวเนี่ยแหละที่ทำให้ผมร้องกรี๊ดดด ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์สักครั้งในชีวิตที่1ปี จะมี1ครั้ง ที่คนมายืนบนแม่น้ำได้ พอถึงเวลาก็กลับฝั่ง มาเดินสวนสตาลินต่อ ผมชอบมากเลยนะสำหรับสวนสตาลิน มันทำให้คนอยากออกจากบ้านมาเดินเล่น มาพูดคุย ยิ่งใครมากับแฟนมันจะโรแมนติกมากถ้าได้มาเดินสวนสตาลินด้วยกัน จากนั้นก็ลงใต้ดินมุดมาอีกฝั่งที่เป็นถนนจงหยาง (zhongyang street) เป็นอีกทีที่ผมชอบมามาก มีของกินของฝากเยอะมาก และที่แน่ๆไม่เคยพลาดเลยคือ ปลาหมึกย่าง ไม้ละ 15 หยวน และใครจะซื้อของฝาก แนะนำให้ซื้อที่ถนนจงหยางนี้ได้เลย และใครจะช็อปปิ้งที่นั้นก็มีห้าง สามารถเข้าไปเดินเล่นได้เลย ไม่ไปเที่ยว แวะมาเยี่ยวก็ยังดี เพราะคุณจะปวดฉี่บ่อย

DAY4
จะพาไปเยี่ยมชม 3 ศาสนาในหนึ่งวัน โดยที่แรกจะนั่งรถไปที่วัดจี๋เล่อ ขอพรตามแบบฉบับคนพุทธ เป็นวัดที่ใหญ่มาก เสียค่าเข้าคนละ 10 หยวน ศิลปะของวัดจีนไม่ต้องพูดถึงเลย สวยมาก มีความเวอร์วังมาก เก็บทุกรายละเอียด และวัดบ้านเค้าสะอาดมาก มีคนดูแลทุกจุด จากนั้นผมเลือกการเดินเพื่อแลกกับระหว่างทางที่ไม่ได้เจอบ่อยๆ เดินจากวัดไปมัสยิดเด้าไว่(Daowai Mosque)ประมาณ 1 กิโล พอไปถึงมัสยิดก็ถูกพบว่าเหมือนไม่เปิดให้เข้าชมแล้ว แอบน่ากลัวเพราะต้องใส่รหัสเข้าไป เลยได้แต่อยู่ข้างนอกยืนถ่ายรูปข้างนอกอย่างเดียว และต่อมาก็นั่งTAXIไปลง Saint Sophia's Church มาโบสถ์เป็นที่สุดท้าย ก็ยังประทับใจไม่หายกับความสวยของโบสถ์แห่งนี้ นั่งคาเฟ่ไปมองโบสถ์ไป ให้พูดกี่ครั้งก็ยืนยันว่ามันคือยุโรปจริง ไม่เหมือนเมืองจีนเลย ถึงแม้จะเคยเป็นเมืองขึ้นของรัสเซียในชั่วขณะ และต่อมาก็ไปฝั่งสวนสตาลินอีกครั้ง ไปแม่น้ำซงฮวาเพื่อลงไปเดินเล่น และเจอคนจีนมาตื้อให้เล่นเครื่องเล่น เป็นรถม้าให้บริการระยะทางสั้นๆ ไม่เกิน 15 นาที ตกคนละ 50 หยวน มีโอกาสได้ลองก็ลองไปเนาะ และคืนนี้ก็ยังเหมือนเดิมไปหาอะไรกินที่ถนนจงหยาง (zhongyang street) บอกเลยชอบสุดแล้วถนนสายนี้ มีทุกอย่างจริงๆ ของกิน ของฝาก

DAY5
วันนี้เดินทางจากสถานีรถไฟฮาร์บินไปปักกิ่งต่อ โปรดรอชมตอนต่อไป

show more

Share/Embed