โอ้รัก : เศรษฐา ศิระฉายา
วิทวัส สระทองคำ วิทวัส สระทองคำ
136K subscribers
14,808 views
248

 Published On Feb 21, 2022

รักเพื่อพบแล้วพลัดพราก ไม่เคยคิดจาก รักจริงจากใจ
รักชั่วนิรันดร์ รักกันเรื่อยไป
ดื่มด่ำฤทัย ไม่คลายใจรักกัน
รักซ่านทรวงซึ้งดวงจิต ความรักฝังติดชิดชมผูกพัน
รักเราหวานชื่นทุกคืนทุกวัน
ไม่แปรรักปัน เปลี่ยนใจไปให้ใคร
ตัวตายยังรักภักดีต่อเธอไม่หวั่นไหว
รักเรืองรองผ่องใส
เอารักฝากโลกลอยลมไว้สิ้นใจ รักยังไม่ตายไม่ตรม
รักปักตรึงถึงภพหน้า ความรักเหนือกว่าคำกวีเอ่ยชม
ถึงโลกมลายสูญตามสายลม ไม่เคยระทม ชื่นชมเพียงรักเดียว

"โอ้รัก" ประพันธ์คำร้องและทำนอง โดย "สุรพล โทณะวณิก" (ทำนองเพลง (A Place To) Hideaway ของ The Carpenters) ในเวอร์ชั่นนี้เรียบเรียงดนตรี โดย "ชาตรี คงสุวรรณ" เป็นงานเพลงในอัลบั้มพิเศษของ "เศรษฐา ศิระฉายา"

ต้อย เศรษฐา ศิระฉายา พิธีกร นักแสดง และอดีตนักร้องนำ "ดิอิมพอสซิเบิ้ล" วงสตริงคอมโบที่ประสบความสำเร็จและยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับวงดนตรีหลายวงที่กำเนิดขึ้นในยุคต่อมา

เศรษฐา ศิระฉายา จบมัธยมปลายจากโรงเรียนวัดบวรนิเวศ ระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ หลักสูตรโครงการพิเศษ สาขาวิชาการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยรามคำแหง ระดับปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ สาขาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต MBA มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีและปริญญาเอก คณะรัฐศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี

เข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุประมาณ 16 ปี ด้วยการขนเครื่องดนตรีในวงดนตรีตามคำชักชวนของน้าชายของเขา สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ อดีตพระเอกภาพยนตร์ชื่อดังในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ต่อมาได้ฝึกหัดทักษะด้านดนตรีแบบครูพักลักจำ จนกระทั่งได้ก้าวขึ้นมาเป็นนักร้องตามสถานบันเทิงต่าง ๆ เช่น ตั้งวงหลุยส์กีต้าร์เกิร์ล กระทั่งได้รวมตัวกับเพื่อน ๆ นักดนตรีตั้งวงดนตรี Holiday J-3 ร่วมกับวินัย พันธุรักษ์, พิชัย ทองเนียม, อนุสรณ์ พัฒนกุล และสุเมธ อินทรสูต ต่อมา เปลี่ยนชื่อเป็น Joint Reaction และเปลี่ยนอีกครั้งในชื่อ ดิอิมพอสซิเบิ้ล (The Impossibles) ซึ่งเป็นชื่อการ์ตูนชื่อดังของอเมริกาในสมัยนั้น โดยเขารับบทบาทเป็นนักร้องนำ

ปี พ.ศ. 2512 ดิอิมพอสซิเบิ้ลสามารถคว้าถ้วยพระราชทานรางวัลชนะเลิศการประกวดวงสตริงคอมโบ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ส่งผลให้เริ่มเป็นที่นิยมและเป็นจุดเปลี่ยนให้เศรษฐาได้เข้ามาสัมผัสโลกภาพยนตร์เป็นครั้งแรก เมื่อเขาและเพื่อน ๆ ได้รับการทาบทามจาก เปี๊ยก โปสเตอร์ ให้มาร่วมบรรเลงเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง โทน (2513)

ดิอิมพอสซิเบิ้ลยังคงชนะเลิศการประกวดวงสตริงคอมโบอีก 2 ครั้งติดต่อกัน หลังจากนั้นและได้บรรเลงเพลงประกอบภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง อาทิ ดวง (2514), สวนสน (2514), ระเริงชล (2515), ตัดเหลี่ยมเพชร (2518) ฯลฯ กลายเป็นวงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ปี พ.ศ. 2518 หลังกลับมาจากการไปทัวร์ที่ต่างประเทศ เศรษฐาก็ได้รับการชักชวนจาก จุรี โอศิริ ให้มาแสดงภาพยนตร์อย่างจริงจังครั้งแรกคือเรื่อง ฝ้ายแกมแพร (2518) แต่ก็ได้รับรางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมมาครองจากผลงานดังกล่าวได้ทันที

ปี พ.ศ. 2519 ดิอิมพอสซิเบิ้ลประกาศยุบวงอย่างเป็นทางการ เศรษฐาจึงก้าวเข้าสู่โลกมายาอย่างเต็มตัว มีบทบาทโดดเด่นทั้งการเป็นพิธีกรและนักแสดง นับเป็นดารายอดฝีมือคนหนึ่งซึ่งสามารถรับบทบาทได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นบทดี บทร้าย บทตลก ส่งผลให้มีผลงานออกมามากมายจวบจนปัจจุบัน โดยเรื่องที่โดดเด่นที่สุดเรื่องหนึ่งคือ ชื่นรัก (2522) ซึ่งเขาได้รับบทพระเอกประกบคู่กับ อรัญญา นามวงศ์ นางเอกชื่อดัง เป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ให้ทั้งคู่กลายเป็นคู่ชีวิตกันในเวลาต่อมา

ช่วงบั้นปลายชีวิต เศรษฐาเข้ารับการรักษามะเร็งปอด หลังจากตรวจพบใน พ.ศ. 2562 ระหว่างนั้นในปี พ.ศ. 2564 เขาเคยป่วยด้วยโรคโควิด-19 และได้รับการรักษาจนไม่มีเชื้อโควิดในร่างกายแล้ว แต่ในที่สุด เศรษฐาก็เสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 04:41 นาที หลังจากกลับไปรักษาอาการมะเร็งปอดด้วยเคมีบำบัด สิริอายุ 77 ปี

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ นายเศรษฐา ศิระฉายา ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง) พุทธศักราช 2554 ที่ได้จากไปอย่างสงบ เมื่อเวลา 04.41 น.ที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ด้วยโรคมะเร็งปอด สิริรวมอายุ 77 ปี โดยมีพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณแ องคมนตรี เป็นประธานในพิธี ที่ศาลา 1 วัดเทพศิรินทราวาส

show more

Share/Embed