พระองค์ที ทรงนำพระสหายทัศนศึกษา พระราชวังบางปะอิน และวัดนิเวศธรรมประวัติ [2ม.ค.62]
ProGressTH 789 ProGressTH 789
395K subscribers
517,836 views
0

 Published On Jan 2, 2019

วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ.2562 เวลา 09.35 น. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เสด็จไปยังพระราชวังบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทรงนำพระสหายทัศนศึกษาพระราชวังบางปะอิน ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปราสาททอง เป็นที่ประพาสของพระเจ้าแผ่นดินในสมัยกรุงศรีอยุธยา และรกร้างไปแต่ครั้งเสียกรุงศรีอยุธยา จนพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างพระที่นั่งองค์หนึ่งสำหรับเป็นที่ประทับ ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดที่จะเสด็จประพาสพระราชวังบางปะอิน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างพระที่นั่งและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ขึ้น อาทิ พระที่นั่งวโรภาษพิมาน ซึ่งเป็นพระที่นั่งตึกชั้นเดียว เพื่อเป็นที่ประทับ และท้องพระโรงเสด็จออกว่าราชการ ในการนี้ทรงวางพวงมาลัย แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระมหาเศวตฉัตร ปัจจุบันพระที่นั่งองค์นี้ยังใช้เป็นที่ประทับเมื่อมีการแปรพระราชฐาน โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบรมพิตร เคยประทับทรงงานเมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานด้วย

พระที่นั่งเวหาศจำรูญ เป็นพระที่นั่ง 2 ชั้น ศิลปะแบบจีน ก่อสร้างด้วยไม้สักทองทั้งองค์ ไม่ใช้น็อตและตะปู โดยกลุ่มพ่อค้าชาวจีน น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี 2432 มีนามตามภาษาจีนว่า "เทียนเม่งเต้ย" ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 10 ปี เนื่องจากต้องส่งไม้สักทองโดยเรือสำเภาไปแกะสลักลวดลายที่ประเทศจีน ในห้องกลางชั้นบน เป็นที่ประดิษฐานพระที่นั่งเก๋ง 3 องค์ ทำด้วยไม้แกะสลักลวดลายลงรักปิดทอง ในการนี้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระป้าย พระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระนามาภิไธยสมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์, พระป้ายพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และนามาภิไธยสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ จากนั้นทอดพระเนตรห้องทรงพระอักษร ซึ่งมีตู้หนังสือ และโต๊ะทรงพระอักษร บนเพดานประดับด้วยเต็งลั้ง โคมไฟเขียนลายจีนโบราณจากด้านใน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเสด็จมาทรงพระอักษรภายในห้องนี้

หอวิฑูรทัศนา เป็นหอสูงยอดมน สร้างตามศิลปะแบบโปรตุเกส ตั้งอยู่กลางเกาะในพระราชอุทยาน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างขึ้น เป็นหอส่องกล้องชมภูมิประเทศ ในยามฤดูน้ำหลาก ทอดพระเนตรระดับน้ำขึ้น-ลง ในพื้นที่การเกษตรของราษฎร และเป็นหอส่องกล้องดูดาว ปัจจุบันพระราชวังบางปะอิน เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.

จากนั้น ประทับเรือที่นั่งเสด็จไปยังวัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร พระอารามหลวงประจำพระราชวังบางปะอิน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สถาปนาขึ้นเมื่อปี 2419 เพื่อเป็นที่ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเมื่อเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับ ณ พระราชวังบางปะอิน ภายในพระอารามมีสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมโดดเด่น ผสมผสานแนวคิดตะวันออกกับตะวันตก ในการนี้ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธนฤมลธรรโมภาส พระประธานภายในพระอุโบสถ ซึ่งเป็นพระปฏิมากรประทับนั่งขัดสมาธิเพชร กาไหล่ทองคำทั้งองค์ จากนั้นทรงถวายเครื่องสังฆทานแด่พระเทพญาณไตรโลกาจารย์เจ้าอาวาส

ต่อจากนั้น เสด็จไปยังศาลาราย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แล้วทอดพระเนตรภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ จปร. ตั้งขึ้นตามพระบรมราชานุญาตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุสำคัญ อาทิ พระพุทธรูป ตู้พระธรรม หีบพระธรรม ธรรมาสน์ เครื่องสังเค็ด เครื่องมุก และเครื่องหินอ่อน แล้วทอดพระเนตรนาฬิกาแดด ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ช่างอิตาลีนำมาจากเมืองมิลาน และตั้งขึ้นเมื่อปี 2421 ซึ่งยังใช้บอกเวลาได้จนถึงปัจจุบัน, สวนหินดิศกุลอนุสรณ์ ที่บรรจุอัฐิของราชสกุลดิศกุล เป็นแหล่งรวมหินแร่ชนิดต่าง ๆ ทั้งขนาดใหญ่และเล็ก ภายใต้หินเป็นที่บรรจุอัฐิสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ, หอพระพุทธศิลา พระพุทธรูปเก่าแก่ปางนาคปรก สมัยลพบุรี ฝีมือช่างขอมอายุกว่าพันปี และต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงปลูกเมื่อปี 2420 ก่อนเสด็จกลับ เสด็จไปยังศาลาการเปรียญ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธทีปังกรวชิรรัศมิ์นาถประชา พระประธานประจำศาลาการเปรียญ ซึ่งเป็นศาลาการเปรียญที่สร้างขึ้นตามโครงการอนุรักษ์และพัฒนาวัดนิเวศธรรมประวัติ ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนวัดนิเวศธรรมประวัติเป็นโบราณสถานสำหรับชาติ เมื่อปี 2474 และได้บูรณปฏิสังขรณ์มาโดยลำดับ

show more

Share/Embed