#รวมไทยสยาม ย้อนอดีตไปเมื่อหลายร้อยปีก่อน กว่าจะเป็นไทย
เมืองเก่าแก่ที่สุดในสยามประเทศ' เมืองทุ่งยั้ง '
ย้อนอดีตไปเมื่อหลายร้อยปีก่อน’ ชาวต่างชาติรู้จักเมืองของเราในนามสยามประเทศ’
แต่ว่าเรียกชาวสยามว่าคนไทย’
แล้วก็ไม่มีใครเห็นเป็นเรื่องแปลกประหลาด’
เนื่องจากคนไทยกระจายกันอยู่ในประเทศต่างๆ เช่น'ไทยใหญ่'
ซึ่งตั้งรกรากอยู่บนส่วนหนึ่งของพม่า’
มีแผ่นดิน ถิ่นกำเนิด’ตั้งอยู่ใกล้กับสยามประเทศ’
ภาษาพูดก็อาจจะฟังดูแปลกหูไปบ้าง’
แต่ถ้าตั้งใจฟังจริงๆก็พูดคุยกันรู้เรื่อง’
แม้กระทั่งตอนสงครามโลกครั้งที่สองปะทุขึ้น’
หน้าประวัติศาสตร์โลกก็ระบุว่า’
กองทัพญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกที่ชายฝั่งทะเลของสยามประเทศ’
ซึ่งพวกฝรั่งเรียกว่า’ 'ไซแอ่ม' ‘อันหมายถึงสยามนั่นเอง’
เราเพิ่งจะเปลี่ยนชื่อบ้านเมืองจากสยามประเทศในช่วงหลังสงครามโลก’
อันเป็นยุคของ จอม พล ปอ พิบูลสงคราม เรืองอำนาจ’และเป็นผู้จับมือตกลงเป็นมหามิตรกับญี่ปุ่น’จุดชนวนสงครามไม่บานปลายไปทั่วเอเชีย’
ทั้งที่คนส่วนใหญ่ในประเทศไม่เห็นด้วย’ ก็เกิดขบวนการเสรีไทยใต้ดิน’จับมือกับฝ่ายสัมพันธมิตรสู้รบกับกองทัพญี่ปุ่นแบบใต้ดิน’โดยมีอเมริกา สนับสนุน’
เมื่อสงครามโลกปิดฉากลงในแบบญี่ปุ่นยอมแพ้’อย่างไม่มีเงื่อนไข’
กลุ่มมหาอำนาจทั้ง ห้า’ ยกเว้นอเมริกาก็ถือว่าสยามต้องเป็นฝ่ายแพ้สงครามไปด้วย’เพราะว่าเป็นพวกเดียวกับญี่ปุ่น’
นักการ ฑูต ของเราต้องใช้วิธีเจรจาแบบลิ้นการทูตอย่างสุดฤทธิ์’เพื่อให้พ้นจากการเป็นเมืองขึ้น’
ยังดีว่าสี่ มหาอำนาจที่เหลือเกรงใจอเมริกา’ ฝ่ายสัมพันธมิตรช่วยยืนยันว่าสยาม’ช่วยรบกับญี่ปุ่นอย่างสุดความสามารถ’
มหาอำนาจ อดีตนักล่าอาณานิคมอย่างอังกฤษและฝรั่งเศส’ก็ได้แต่แบ่งแผ่นดินสยามไปเป็นของตนมากพอสมควร’จนเหลือแผ่นดินไม่ถึงครึ่งอย่างที่เห็นในปัจจุบัน’
นอกจากนั้นฝรั่งมหาอำนาจ’ยังกล่าวถึงสยามประเทศอย่างเสียหาย’
คําว่าไซมิสทอล์ก’ แปลตรงตัวว่าพูดแบบสยามนี่กลายเป็นศัพท์แสลง’
ใช้กล่าวถึงคนกะล่อนพูดจาไม่อยู่กะร่องกะรอย’ ว่าพูดแบบไซมิสทอล์ก’
เมื่อจอมพล ปอ พิบูลสงครามกลับมาเรืองอำนาจเป็นคํารบสอง’
จึงได้ตั้งชื่อประเทศเสียใหม่’
ฝรั่งมหาอำนาจจะได้ลืมคําว่าไซมิสทอล์กไปเสีย’
พ้นจากการหารือ’สยามประเทศซึ่งเป็นชื่อแผ่นดินถิ่นกำเนิดของคนไทย’
ฉะนั้นเพื่อมิให้เกิดความสับสนกับนานาอารยประเทศ’จึงขอเปลี่ยนชื่อเป็นประเทศไทย’
นับจากวันเปลี่ยนชื่อจากสยามถึงปัจจุบันก็ร่วมร่วมเจ็ดสิบปีแล้ว’

จุดกำเนิดของประเทศไทย’ สยามประเทศอันเป็นชื่อดั้งเดิมของราชอาณาจักรไทย’
คนต่างด้าวท้าวต่างแดน’รู้จักกันมายาวนานในชื่อสยามมาหลายร้อยปี’
สยามประเทศนี้ ผลัดแผ่นดินหลายครั้ง’ในหลายยุคหลายสมัย ต่างกรรมต่างวาระ’
นามเมืองในแต่ละยุคก็เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง’เช่น’กรุงสุโขทัย,กรุงศรีอยุธยา’
เมืองใหญ่ทรงความสำคัญที่ทุกคนรู้จักกันอย่างแพร่หลาย’พอๆกับเมืองหลวงก็มีอาทิเช่น’เมืองพิษณุโลก เป็นต้น’
แต่น้อยคน’ที่จะรู้ว่าเมืองเก่าแก่ที่สุดของสยามประเทศนี้ปัจจุบัน’ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดอุตรดิตถ์’นั่นก็คือเมืองทุ่งยั้ง’
ดังมีหลักฐานยืนยันในเนื้อความที่กล่าวไว้จากพระคัมภีร์ไตรปิฎก’ในพระคัมภีร์สุตันตะปิฎก ’ว่าด้วยเรื่องทุตังคณิธาน’
เนื้อความมีอยู่ว่า’สมัยหนึ่งเมื่อพระ บรม ศาสดาสัมมาสัมพุท\ธะ จ้าว ’เสด็จไปทุ่งยั้ง...นั้น’ไปถึงแล้วทรงให้พระอานนท์ มหาเถระ’กับบรรดาสงฆ์สาวกทั้งหลาย’หยุดพักอยู่ ณ ทุ่งยั้ง... ’
ในขณะที่พระ บรม ศาสดาเสด็จไปโปรด อารวกะยัก' ให้ละจากมิจฉาทิ\ฐิ ความเห็นผิด’
ต่อมาในปีพุทธศักราชห้าร้อย’ ฤาษีสัชนาลัย’ กับฤาษีสิท\ธิมงคล’ ร่วมกันสร้างบ้านแปลงเมืองขึ้นมา’ให้ชื่อว่า’เมืองสวรร คะโลก’
แล้วให้พระยาธรรมราชา’ เป็นผู้ครองนครดูแลอาณาประชาราษฎร์’
บ้านเมืองธนุบำรุง เจริญรุ่ง เรือง แล้ว’ พระยาธรรมราชา’จึงโปรดให้สร้างเมืองลูกหลวง’คือเมืองทุ่งยั้ง’
สถาปนาขึ้นเป็นกรรมโภด นคร’ให้พระราชโอรสเจ้า ธรรมกุมาร' เป็นเจ้าเมือง'
พระโอรสอีกองค์หนึ่งคือ’ เจ้าโลกกุมาร'เลื่อนขึ้นเป็นพระยาศรีธรรมาโสค กะราด’ ครองนคร หริภุญชัย’
พระโอรสอีกพระองค์หนึ่งคือ’ เจ้าศรีหะนุมาน’ ครองนครพิชัยเชียงแสน’
ทั้งสี่นครร่วมกันสถาปนาแผ่นดินเป็นอาณาจักร สยาม สุโขทัย’
นอกจากนี้ยังปรากฏชื่อว่า’มีนครแสนหวี อีกด้วย’
โดยมีหลักฐานในบันทึกของราชสำนักจีน’สมัยราชวงศ์ฮั่นว่า’เสียม’
เสียม’คือคําพูดที่คนจีนใช้เรียก อาณาจักร สยาม สุโขทัย’
ว่าเสียมได้พาทูตโรมัน ไปติดต่อการค้ากับจีน’
ทางราชสำนักจีนพอใจพระราชทานของกำนัลตอบแทนเป็นอันมาก’
และปรากฏร่องรอยของนครแสนหวี’ที่จังหวัดอุตรดิตถ์’
โดยมีการขุดพบกาน้ำชาและดาบจีนโบราณ’ ที่ดาบมีตัวอักษรจีนเรียงเป็นแถวสิบกว่าตัว’
กรมศิลปากรตรวจดูแล้ว’ระบุว่า’เป็นดาบโบราณได้รับพระราชทานจากราชสำนักจีน’สมัยราชวงศ์ฮั่น’
ส่วนหนังสือประวัติศาสตร์ของพม่าระบุว่าสยามส่งทูตจากเมืองแสนหวีซึ่งอยู่ในรัฐฉานของพม่าไปเมืองจีนสมัยราชวงศ์ฮั่น
แต่ที่ รัฐฉาน’ไม่มีหลักฐานใดใดเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย’ แต่กลับขุดพบของพระราชทานจากจีนที่ คลองโพธิ์ จังหวัดอุตรดิตถ์’
ที่ตั้งของคลองโพธิ์นี้’อยู่ใกล้เมืองทุ่งยั้ง’
และชื่อทุ่งยั้ง’ก็ปรากฏในศิลาจารึกสมัยสุโขทัย’ว่าเป็นศูนย์การค้าโบราณของอาณาจักร สยาม สุโขทัย’
มีเส้นทางการค้าจากอินเดีย’ผ่านมาละแหม่งของพม่า’มาถึงแม่สอดในเขตสุโขทัย’บริเวณคลองโพธิ์ และส่งสินค้าโดยล่องเรือไปตามลำน้ำโขง’จนกระทั่งถึงเมืองหลวงของราชวงศ์ฮั่น’ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของ แผ่นดิน จีนในสมัยนั้น’
จากการเป็นศูนย์การค้าที่ดีที่สุด’ ทำให้คลองโพธิ์’เป็นเมืองอันเจริญรุ่งเรืองถึงขั้นมหานคร’

#เรื่องเล่าจากบันทึก เล่าเรื่องต่างๆที่มีสาระและน่าสนใจ ประวัติศาสตร์ ประวัติบุคคลสำคัญต่างๆ รวมถึงธรรมะคำสอนต่างๆ